สาระน่ารู้ หนุ่มสาวออฟฟิส ควรอ่าน
1>วันนี้ผมมีเคล็บลับสำหรับผู้ที่ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆมาฝาก เพื่อรักษาดวงตาของคุณ
1. หมั่นกระพริบตาให้บ่อยขึ้น อาการตาแห้งเกิดจากเมื่อเรามีสมาธิขณะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ อัตราการกระพริบตาจะลดลงจาก 20-22ครั้ง ต่อนาที เหลือเพียง 6-8 ครั้ง ต่อนาที ถ้าไม่อยากตาแห้ง ก็ต้องกระพริบตาบ่อยขึ้น
2. จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม ปรับความสูงของจอให้เหมาะสม โดยระยะห่างระหว่างจอภาพกับตัวเรา ควรอยู่ระหว่าง 20-28 นิ้ว หรือประมาณ 1 ช่วงแขน จุดศูนย์กลางของคอมพิวเตอร์ควรอยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 4-9 นิ้ว ไม่ควรอยู่สูงหรือต่ำกว่านี้มากนัก และควรจะตั้งตรงหน้า ตำแหน่งการวางคอมพิวเตอร์ควรจะให้หน้าต่างอยู่ด้านข้างของโต๊ะ เพื่อป้องกันไม่ให้แสงตกสะท้อนหน้าจอ
3. ปรับตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้น
4. เลือกแว่นที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ ควรใช้เลนส์สีชมพูอ่อน จะช่วยให้สบายตาขึ้นภายใต้แสงจากหลอดไฟฟ้าฟลูออเรสเซนต์ สำหรับคนที่ใส่แว่นควรปรึกษาจักษุแพทย์
5. เบรกซะบ้าง ทุกๆชั่วโมง ควรลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายสัก 10 นาที เพื่อพักสายตา และป้องกันไม่ให้เกิดความเมื่อยล้า
6. เปลี่ยนจอใหม่ เลือกใช้จอชนิดLCD (จอแบน) แม้ราคาจะแพงกว่าจอธรรมดา (CRT) แต่ช่วยถนอมตาได้มาก
ลองทำตามดูครับรับรองจะถนอมสายตา 100 % อ้างอิงมาจาก ภาควิชาจักกฏเหล็กรักษาสุขภาพ นักเล่นเกมส์ พนักงานออฟพิศ หรือผู้ที่อยู่หน้าคอมพ์นานๆ
2>กฏเหล็กรักษาสุขภาพ นักเล่นเกมส์ พนักงานออฟพิศ หรือผู้ที่อยู่หน้าคอมพ์นานๆ
1. กินน้ำชั่วโมงละแก้ว
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะเวลาเรานั่งทำงานเพลิน เราแทบจะลืมกินน้ำไปเลย เผลอๆ ตั้งแต่กินข้าวเที่ยง
จนถึงเย็นแทบไม่ได้กินน้ำสักอึกเดียว รู้ตัวอีกทีก็อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ผิวแห้งตามมาอีก
ดังนั้นทุกชั่วโมงพยายามกินน้ำให้ได้อย่างน้อยครึ่งแก้ว ถ้ามลืมจริงๆ หานาฬิกามาตั้งเคือนไว้
นอกจากทำให้ได้เติมน้ำให้ร่างกายอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังได้พักสายตาจากหน้าจอเป็นระยะด้วย
2.เดินไปเข้าห้องน้ำ...ห้ามขี้เกียจ
"เพิ่งปวดนิดเดียว ยังไม่ต้องไปก็ได้ " ใครชอบคิดแบบนี้เวลาปวดฉี่ห้ามเด็ดขาดเลย
เพราะจะทำให้ติดนิสัยกลั้นฉี่ นอกจากร่างกายจะไม่ได้ระบายของเสียออกตามที่ควรแล้ว
ยังทำให้เราไม่อยากกินน้ำเพิ่มเข้าไป นานๆเข้าก็จะกลายเป็นโรคกระเพาะปัสวะอักเสบด้วย
ดั้งนั้นเมื่อไหร่ที่เดินไปเติมน้ำหรือถ่ายเอกสาร แวะเข้าห้องน้ำสักหน่อย ถึงจะปวดนิดเดียวก็ฉี่เถอะ
3.พักสายตาทุกชั่วโมง
การจ้องคอมพิวเตอรฺ์นานๆ ทั้งวันนอกจากทำให้สายตาเสียเสีย
และยิ่งนานก็สะสมจนอาจทำให้เป็นต้อหินได้แล้ว ยังทำให้สมองตื้อ ปวดหัว ปวดคอตามไปอีก
แต่ในเมื่อเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แึ่ค่ลองวิธีนี้
พักตาจากหน้าจอทุกๆ 1 ชั่วโมง โดยอาจออกไปเดินเล่น หรือทำงานอย่างอื่นแืทนที่
ไม่ต้องใช้ใช้คอมพิวเตอร์ เช่นโทรติดต่องานลูกค้า เข้าไปคุยงานกับเจ้านาย จนรู้สึกปลอดโปร่งขึ้นค่อยกลับมาใช้คอมพิวเตอร์ต่อ
ทีนี้มารู้ทันโรคของหนุ่มสาววัยทำงาน และนักเล่นเกมส์กัน
นี่ คือ 4 โรคสุดฮิตของชาวออฟฟิศและนักเล่นเกมส์
1. กระเพาะปัสวะอักเสบ
• เกิดจาก : คนที่ชอบกลั้นฉี่บ่อยๆ เวลาทำงาน แบบที่คิดว่า "ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยไป ยังทนได้ ตอนนี้สมองกำลังแล่น
ไม่อยากให้งานขาดตอน เด๋วกลับมาแล้วคิดไม่ออก"
ถ้าคุณยังทำแบบนี้อีกไม่นานกระเพาะปัสวะอักเสบถามหาแน่นอน
• อาการ : เมื่อไหร่ที่ปัสวะติดขัด ไม่สุด รู้สึกแสบหรือบางทีกลั้นไม่อยู่ และถ้าเป็นหนักเข้าอาจมีเลือดปนออกมาเวลาปัสวะด้วย
• ป้องกัน : ตั้งกฏกับตัวเองให้ได้ว่า เมื่อไหร่ที่เริ่มปวดฉี่ ไปเข้าห้องน้ำซะ อย่าผลัดไปเรื่อยๆ
แล้วคิดว่าทนได้ การเดินไปเข้าห้องน้ำยังเท่ากับได้ถือโอกาสขยับแขนขยับขา และพักสมองด้วยนะ
2.กรดไหลย้อน
• เกิดจาก : ปล่อยให้หิวนานๆ เพราะกินข้าวไม่ตรงเวลางาน เลิกดึก เลยต้องกินข้าวดึก
พอกินเสร็จปุ๊บก็เข้านอนทันที หรือปล่อยให้เป็นโรคกระเพาะเรื้อรังจนกลายเป็นกรดไหลย้อน
• อาการ : ปวดท้อง ท้องอืด แสบหน้าอกและแสบคอ เพราะกรดในกระเพาะไหลย้อนขึ้นมาตามหลอดอาหาร
เนื่องจากมีกรดออกมาเยอะเกินไป หรือคนที่เรอบ่อยๆ และเรอเปรี้ยว ก็เป็นอาการเริ่มต้นเช่นกััน
• ป้องกัน : ถ้าต้องทำงานดึก พยายามหาอาหารรองท้องก่อน และไม่ควรกินอะไรก่อนนอน 2 ชั่วโมง
เมื่อถึงเวลากินข้าวก็ควรกินให้ตรงเวลา อาจจะอาหารเบาๆ ติดโต๊ะทำงานไว้รองท้องเมื่อหิว
3.ปวดต้นคอและหลัง
• เกิดจาก : นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวันโดยไม่หยุดพักบ้าง ทำให้หลัง แขน และไหล่ อยู่ในท่าเดียวนานๆ
กล้ามเนื้อไหล่จึงเกาะกันเป็นก้อน ไม่ได้ผ่อนคลาย นานๆ เข้าก็เกิดอาการปวดขั้นมา
• อาการ : อาจเริ่มจากปวดตึงที่ต้นคอมและไหล่ แต่ถ้ายังปล่อยไว้อาการจะหนักขึ้น โดยลามถึงต้นแขนด้านหลังขึ้นมาถึงขมับ
• ป้องกัน : เมื่อไหร่ที่นั่งทำงานอยู่ในท่าเดียวนานๆ ให้เปลี่ยนมานั่งหลังตรงไม่ต้องนั่งพิงเก้าอี้
และยืดแขนให้สุดไปด้านหลังมือประสานกัน แล้วยกไหล่และหน้าอกไปด้านหลังจนตึงที่สุด ค้างไว้ นับ1-5 แล้วปล่อย
ทำแบบนี้ทุกชั่วโมง
4. นิ้วล็อค
• เกิดจาก : ใ้ช้มือจับเม้าส์ค้างไว้หรือพิมพ์คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ จนเกิดเป็นพังผืดขึ้นมายึดเกาะบริเวนนั้น
อาจทำให้นิ้วยืดจนสุดไม่ได้เหมือนเดิม หรือยืดแล้วเจ็บปวดขึ้นมาก
• ป้องกัน : ถ้าต้องจับเม้าส์คลิกนานๆ พยายามปล่อยและผ่อนคลายข้อมือและนิ้วเป็นระยะๆ
เปลี่ยนจากใช้คอมพิวเตอร์ ไปทำงานอื่นๆ บ้างสลับกันไป
แล้วมาบำรุ่งสายตากันต่อเลยค่ะ
ด้วยวิตามินเอ
วิตามินเอ ค้นพบโดย ดร. อี.วี. แมคคอลลัม (E.V. McCollum) นักวิทยาศาสตร์ชาวสหรัฐอเมริกา ประโยชน์ของวิตามินเอมีดังนี้
หากขาดจะทำให้เป็นโรคมองไม่เห็นในที่มืด
ช่วยป้องกันการแพ้แสงสว่างของบางคน
ผู้ที่ต้องการวิตามินเอมาก คือผู้ที่ต้องใช้สายตามาก
วิตามินเอมีมากในไขมันเนย น้ำมันตับปลา ไข่แดง กะหล่ำปลี พืชตระกูลถั่ว ผักสีแดง ผักสีเหลือง
ขอขอบคุณ E-mail ดีๆจากเพื่อนๆ
1>วันนี้ผมมีเคล็บลับสำหรับผู้ที่ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆมาฝาก เพื่อรักษาดวงตาของคุณ
1. หมั่นกระพริบตาให้บ่อยขึ้น อาการตาแห้งเกิดจากเมื่อเรามีสมาธิขณะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ อัตราการกระพริบตาจะลดลงจาก 20-22ครั้ง ต่อนาที เหลือเพียง 6-8 ครั้ง ต่อนาที ถ้าไม่อยากตาแห้ง ก็ต้องกระพริบตาบ่อยขึ้น
2. จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม ปรับความสูงของจอให้เหมาะสม โดยระยะห่างระหว่างจอภาพกับตัวเรา ควรอยู่ระหว่าง 20-28 นิ้ว หรือประมาณ 1 ช่วงแขน จุดศูนย์กลางของคอมพิวเตอร์ควรอยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 4-9 นิ้ว ไม่ควรอยู่สูงหรือต่ำกว่านี้มากนัก และควรจะตั้งตรงหน้า ตำแหน่งการวางคอมพิวเตอร์ควรจะให้หน้าต่างอยู่ด้านข้างของโต๊ะ เพื่อป้องกันไม่ให้แสงตกสะท้อนหน้าจอ
3. ปรับตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้น
4. เลือกแว่นที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ ควรใช้เลนส์สีชมพูอ่อน จะช่วยให้สบายตาขึ้นภายใต้แสงจากหลอดไฟฟ้าฟลูออเรสเซนต์ สำหรับคนที่ใส่แว่นควรปรึกษาจักษุแพทย์
5. เบรกซะบ้าง ทุกๆชั่วโมง ควรลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายสัก 10 นาที เพื่อพักสายตา และป้องกันไม่ให้เกิดความเมื่อยล้า
6. เปลี่ยนจอใหม่ เลือกใช้จอชนิดLCD (จอแบน) แม้ราคาจะแพงกว่าจอธรรมดา (CRT) แต่ช่วยถนอมตาได้มาก
ลองทำตามดูครับรับรองจะถนอมสายตา 100 % อ้างอิงมาจาก ภาควิชาจักกฏเหล็กรักษาสุขภาพ นักเล่นเกมส์ พนักงานออฟพิศ หรือผู้ที่อยู่หน้าคอมพ์นานๆ
2>กฏเหล็กรักษาสุขภาพ นักเล่นเกมส์ พนักงานออฟพิศ หรือผู้ที่อยู่หน้าคอมพ์นานๆ
1. กินน้ำชั่วโมงละแก้ว
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะเวลาเรานั่งทำงานเพลิน เราแทบจะลืมกินน้ำไปเลย เผลอๆ ตั้งแต่กินข้าวเที่ยง
จนถึงเย็นแทบไม่ได้กินน้ำสักอึกเดียว รู้ตัวอีกทีก็อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ผิวแห้งตามมาอีก
ดังนั้นทุกชั่วโมงพยายามกินน้ำให้ได้อย่างน้อยครึ่งแก้ว ถ้ามลืมจริงๆ หานาฬิกามาตั้งเคือนไว้
นอกจากทำให้ได้เติมน้ำให้ร่างกายอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังได้พักสายตาจากหน้าจอเป็นระยะด้วย
2.เดินไปเข้าห้องน้ำ...ห้ามขี้เกียจ
"เพิ่งปวดนิดเดียว ยังไม่ต้องไปก็ได้ " ใครชอบคิดแบบนี้เวลาปวดฉี่ห้ามเด็ดขาดเลย
เพราะจะทำให้ติดนิสัยกลั้นฉี่ นอกจากร่างกายจะไม่ได้ระบายของเสียออกตามที่ควรแล้ว
ยังทำให้เราไม่อยากกินน้ำเพิ่มเข้าไป นานๆเข้าก็จะกลายเป็นโรคกระเพาะปัสวะอักเสบด้วย
ดั้งนั้นเมื่อไหร่ที่เดินไปเติมน้ำหรือถ่ายเอกสาร แวะเข้าห้องน้ำสักหน่อย ถึงจะปวดนิดเดียวก็ฉี่เถอะ
3.พักสายตาทุกชั่วโมง
การจ้องคอมพิวเตอรฺ์นานๆ ทั้งวันนอกจากทำให้สายตาเสียเสีย
และยิ่งนานก็สะสมจนอาจทำให้เป็นต้อหินได้แล้ว ยังทำให้สมองตื้อ ปวดหัว ปวดคอตามไปอีก
แต่ในเมื่อเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แึ่ค่ลองวิธีนี้
พักตาจากหน้าจอทุกๆ 1 ชั่วโมง โดยอาจออกไปเดินเล่น หรือทำงานอย่างอื่นแืทนที่
ไม่ต้องใช้ใช้คอมพิวเตอร์ เช่นโทรติดต่องานลูกค้า เข้าไปคุยงานกับเจ้านาย จนรู้สึกปลอดโปร่งขึ้นค่อยกลับมาใช้คอมพิวเตอร์ต่อ
ทีนี้มารู้ทันโรคของหนุ่มสาววัยทำงาน และนักเล่นเกมส์กัน
นี่ คือ 4 โรคสุดฮิตของชาวออฟฟิศและนักเล่นเกมส์
1. กระเพาะปัสวะอักเสบ
• เกิดจาก : คนที่ชอบกลั้นฉี่บ่อยๆ เวลาทำงาน แบบที่คิดว่า "ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยไป ยังทนได้ ตอนนี้สมองกำลังแล่น
ไม่อยากให้งานขาดตอน เด๋วกลับมาแล้วคิดไม่ออก"
ถ้าคุณยังทำแบบนี้อีกไม่นานกระเพาะปัสวะอักเสบถามหาแน่นอน
• อาการ : เมื่อไหร่ที่ปัสวะติดขัด ไม่สุด รู้สึกแสบหรือบางทีกลั้นไม่อยู่ และถ้าเป็นหนักเข้าอาจมีเลือดปนออกมาเวลาปัสวะด้วย
• ป้องกัน : ตั้งกฏกับตัวเองให้ได้ว่า เมื่อไหร่ที่เริ่มปวดฉี่ ไปเข้าห้องน้ำซะ อย่าผลัดไปเรื่อยๆ
แล้วคิดว่าทนได้ การเดินไปเข้าห้องน้ำยังเท่ากับได้ถือโอกาสขยับแขนขยับขา และพักสมองด้วยนะ
2.กรดไหลย้อน
• เกิดจาก : ปล่อยให้หิวนานๆ เพราะกินข้าวไม่ตรงเวลางาน เลิกดึก เลยต้องกินข้าวดึก
พอกินเสร็จปุ๊บก็เข้านอนทันที หรือปล่อยให้เป็นโรคกระเพาะเรื้อรังจนกลายเป็นกรดไหลย้อน
• อาการ : ปวดท้อง ท้องอืด แสบหน้าอกและแสบคอ เพราะกรดในกระเพาะไหลย้อนขึ้นมาตามหลอดอาหาร
เนื่องจากมีกรดออกมาเยอะเกินไป หรือคนที่เรอบ่อยๆ และเรอเปรี้ยว ก็เป็นอาการเริ่มต้นเช่นกััน
• ป้องกัน : ถ้าต้องทำงานดึก พยายามหาอาหารรองท้องก่อน และไม่ควรกินอะไรก่อนนอน 2 ชั่วโมง
เมื่อถึงเวลากินข้าวก็ควรกินให้ตรงเวลา อาจจะอาหารเบาๆ ติดโต๊ะทำงานไว้รองท้องเมื่อหิว
3.ปวดต้นคอและหลัง
• เกิดจาก : นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวันโดยไม่หยุดพักบ้าง ทำให้หลัง แขน และไหล่ อยู่ในท่าเดียวนานๆ
กล้ามเนื้อไหล่จึงเกาะกันเป็นก้อน ไม่ได้ผ่อนคลาย นานๆ เข้าก็เกิดอาการปวดขั้นมา
• อาการ : อาจเริ่มจากปวดตึงที่ต้นคอมและไหล่ แต่ถ้ายังปล่อยไว้อาการจะหนักขึ้น โดยลามถึงต้นแขนด้านหลังขึ้นมาถึงขมับ
• ป้องกัน : เมื่อไหร่ที่นั่งทำงานอยู่ในท่าเดียวนานๆ ให้เปลี่ยนมานั่งหลังตรงไม่ต้องนั่งพิงเก้าอี้
และยืดแขนให้สุดไปด้านหลังมือประสานกัน แล้วยกไหล่และหน้าอกไปด้านหลังจนตึงที่สุด ค้างไว้ นับ1-5 แล้วปล่อย
ทำแบบนี้ทุกชั่วโมง
4. นิ้วล็อค
• เกิดจาก : ใ้ช้มือจับเม้าส์ค้างไว้หรือพิมพ์คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ จนเกิดเป็นพังผืดขึ้นมายึดเกาะบริเวนนั้น
อาจทำให้นิ้วยืดจนสุดไม่ได้เหมือนเดิม หรือยืดแล้วเจ็บปวดขึ้นมาก
• ป้องกัน : ถ้าต้องจับเม้าส์คลิกนานๆ พยายามปล่อยและผ่อนคลายข้อมือและนิ้วเป็นระยะๆ
เปลี่ยนจากใช้คอมพิวเตอร์ ไปทำงานอื่นๆ บ้างสลับกันไป
แล้วมาบำรุ่งสายตากันต่อเลยค่ะ
ด้วยวิตามินเอ
วิตามินเอ ค้นพบโดย ดร. อี.วี. แมคคอลลัม (E.V. McCollum) นักวิทยาศาสตร์ชาวสหรัฐอเมริกา ประโยชน์ของวิตามินเอมีดังนี้
หากขาดจะทำให้เป็นโรคมองไม่เห็นในที่มืด
ช่วยป้องกันการแพ้แสงสว่างของบางคน
ผู้ที่ต้องการวิตามินเอมาก คือผู้ที่ต้องใช้สายตามาก
วิตามินเอมีมากในไขมันเนย น้ำมันตับปลา ไข่แดง กะหล่ำปลี พืชตระกูลถั่ว ผักสีแดง ผักสีเหลือง
ขอขอบคุณ E-mail ดีๆจากเพื่อนๆ